วันเสาร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

“ของขวัญ” อีกครั้งจากทีมชาติไทย



วันนี้ผมถือว่า ตัวเองมี “หน้าที่” ที่ยังไงก็ต้องพูดถึงทีมชาติไทยทั้ง 2 ชุด : ชุดซีเนียร์ หรือที่ควรจะเรียกว่า “ชุดใหญ่” และชุดปรีโอลิมปิก 2016 ครับ
ในช่วงพีเรียด “ฟีฟ่า เดย์” กินเวลาประมาณ 9 วัน แต่บอลลีกหลักทั้ง โตโยต้า ไทยพรีเมียร์ลีก และยามาฮ่า ลีกวัน ได้หยุดหลีกทางพร้อมๆ กับความ “ร่วมมือ” จากสโมสรสมาชิกอย่างเต็มที่เพื่อให้ทีมชาติได้เก็บตัวประมาณ 3 สัปดาห์ ระหว่าง 12 มี.ค.-3 เม.ย.58 
ผมคงต้องขอยืมคำพูด “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง มาใช้ว่า ทีมช้างศึกได้มอบ “ของขวัญ” อันมีค่าให้กับแฟนบอลอีกครั้งแล้วครับ มันยังเหลือเชื่อจริงๆ ในความรู้สึกนับจากเราได้แชมป์ “ซีเกมส์ 2013”
ตามด้วยอันดับ 4 เอเชียนเกมส์ 2014 ก่อนจะปิดท้ายด้วยแชมป์ซูซูกิ คัพ 2014


ครั้งนี้ ทัพนักเตะชุด ยู-22 ซึ่งปีหน้าจะกลายเป็น ยู-23 ประสบความสำเร็จอย่างงดงามทะลุรอบสุดท้ายสู้ศึก AFC U-23 แชมเปี้ยนชิพ 2016 ที่กาตาร์ ระหว่าง 12-30 ม.ค. และสามารถทำให้แฟนบอลได้มี “ความสุข” มากๆ โดยเราจะเป็น 1 ใน 16 ชาติ เข้าร่วมทำการแข่งขัน และอย่างน้อยได้ “แอบลุ้น” เป็น 1 ใน 3 ทีมสุดท้าย เป็นตัวแทนโควตาเอเชียไปเตะ “โอลิมปิก 2016” ที่กรุงริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล การเข้ารอบครั้งนี้ เราเข้าไปในฐานะทีมอันดับ 2 ที่คะแนนดีที่สุดจาก 5 ทีม ร่วมกับแชมป์ 10 กลุ่ม และประเทศเจ้าภาพ กาตาร์ แต่กว่าจะเก็บผลการแข่งขันกับ “โสมแดง” เกาหลีเหนือ ได้ ใครที่ได้ชมการถ่ายทอดสดคงจะเห็นแล้วว่า “ไม่ง่าย” โดยเฉพาะ 30 นาทีแรกที่ทัพนักเตะไทยโดนโหมบุกกระหน่ำ “ซิโก้” ยืนยันว่า นั่นเป็นแผนการ โดยเฉพาะการถอย ธนบูรณ์ เกษารัตน์ มายืนเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ และเลือกเล่นในลักษณะที่เจ้าตัวเรียกว่า “เล่นแบบเน้นผลการแข่งขัน”


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น