เชลซี แม่นโทษดับ เปแอสเช 6-5 ศึกฟุตบอลICC

เชลซี เฉือน ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ด้วยการดวลจุดโทษ 6-5

 หลังเวลาปกติเสมอ 1-1ในศึกฟุตบอลรายการพิเศษ อินเตอร์เนชั่นแนล แชมเปียนส์ คัพ 2015 การแข่งขันฟุตบอลรายการพิเศษ อินเตอร์เนชั่นแนล แชมเปียนส์ คัพ 2015 ที่สนาม แบงค์ ออฟ อเมริกา สเตเดียมเป็นการพบกันของ  ข่าวบอลสเปน

"สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ดับเบิลแชมป์จากลีกอังกฤษ พบกับ ปารีส แซงต์แชร์กแมง แชมป์จากลีกเอิง โดยเกมนี้ เปแอสเช ไร้ ติอาโก้ มอตต้า ที่สภาพร่างกายไม่ฟิตต้องพัก ฝั่งเชลซี

เกมนี้ส่งตัวหลัก ลงสนามอย่างครบทีม ไม่ว่าจะเป็น เชสก์ ฟาเบรกัส,เอแด็ง อาซาร์,ดีเอโก้ คอสต้า,จอห์น เทอร์รี่ และเซซาร์ อัซปิลิกวยต้า ผลการเเข่งขันปรากฎว่า ครึ่งเเรก ในนาทีที่ 25 ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ออกนำ เชลซี 1-0 จาก อิบราฮิโมวิช 

จากนั้นทั้งทีมเปิดเกมเเลกกันอย่างสนุก แต่ไม่สามารถทำประตูเพิ่มได้ จบ 45 นาทีแรก เปแอสเช นำ 1-0 เข้าสู่ครึ่งหลัง นาทีที่ 65 เชลซี ตามตีเสมอได้สำเร็จ เมื่อ เชสก์ ฟาเบรกัส

 โชว์การจ่ายคิลเลอร์พาสทะลุแนวรับ โมเซส วิ่งสอดจากด้านหลังกระโดดแปไม่เหลือซาก เชลซรไล่ เจ๊า 1-1 เวลาที่เหลือ เชลซี ครองเกมบุกเหนือกว่าแต่จังหวะสุดท้ายไม่เฉียบขาดพอ จบ 90 นาทีเสมอ 1-1 ต้องตัดสินหาผู้ชนะด้วยการดวลจุดโทษตัดสิน ผลการดวลจุดโทษ

 ปรากฎว่า เชลซี เฉือนเอาชนะ ปารีสแซงต์แชร์กแมงไปได้หวุดหวิด 6-5 เก็บเพิ่มเป็น 3 คะแนนจาก 2 นัด ส่วนปารีสฯ มี 7 คะแนนจาก 3 นัด

หงส์แดง จ่อขาย 2 นักเตะ ซาโก-แลมเบิร์ต

ลิเวอร์พูล พร้อมปล่อย 2 นักเตะ มามาดู ซาโก และ ริกกี้ แลมเบิร์ต พ้นทีม ด้าน เชลซี พร้อมขาย ฟิลิเป้ หลุยส์ กลับคืนไปให้ แอตมาดริด สื่อในประเทศอิตาลี

 เผยว่า ทีมลิเวอร์พูล ที่ได้สมาชิกใหม่เข้ามาเสริมทีมหลายคน กำลังจะปล่อยนักเตะออกไปจากทีมเพื่อความสมดุล ล่าสุด เตรียมปล่อย "มามาดู ซาโก"  ข่าวบอลต่างประเทศ

กองหลังผิวสีทีมชาติฝรั่งเศส ออกไปจากทีม หลังมีข่าวเอเย่นต์ของนักเตะกำลังเจรจาเรื่องย้ายทีมกับลาซิโอ ทีมดังในศึกกัลโช เซเรีย อา ของประเทศอิตาลี นอกจากนี้ "ริกกี้ แลมเบิร์ต"

 กองหน้าชาวอังกฤษ วัย 33 ปี ก็ตกเป็นเป้าหมายของทีมเวสต์บรอมวิช และอาจมีการเจรจาเรื่องย้ายทีมในเร็วๆ นี้ หากทีมหงส์แดงได้ตัว " เบนเตเก้"

 ดาวยิงทีมชาติเบลเยียม มาร่วมทัพ ขณะที่ สกาย สปอร์ต รายงานว่า เชลซี พร้อมขาย ฟิลิเป้ หลุยส์ กลับคืนไปให้ แอต.มาดริด ด้วยค่าตัว 15 ล้านปอนด์

 หลังจากย้ายมาอยู่กับ "สิงห์บลูส์" ได้แค่ฤดูกาลเดียว เพราะไม่มีตำแหน่งตัวจริงตลอดฤดูกาลที่ผ่านมา ลงเล่นเกมลีกเพียง 13 นัด เท่านั้น

อิตาลี-ฝรั่งเศส” กระอัก! มีสิทธิ์ชนยักษ์-อยู่โถ 2 จับสลากคัดบอลโลกวันนี้

สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า คอนเฟิร์มการแบ่งโถทีมวาง การจับสลากแบ่งกลุ่มฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนยุโรป ที่จะมีขึ้น ณ เมืองเซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย ในวันนี้ (25 ก.ค.) ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 โดยจากทั้งหมด 52 ชาติสมาชิก (ยกเว้น รัสเซีย เจ้าภาพ ที่ได้เข้ารอบสุดท้ายแบบอัตโนมัติ) จะถูกแบ่งออกเป็น 6 โถ

 โดยอิงจากคะแนนอันดับโลกประจำเดือนกรกฎาคมของฟีฟ่า ซึ่ง เยอรมัน แชมป์โลกทีมล่าสุด จะอยู่ในโถ 1 ร่วมกับ เบลเยียม, ฮอลแลนด์, โปรตุเกส, โรมาเนีย, อังกฤษ, เวลส์, สเปน และ โครเอเชีย ส่วนชาติยักษ์ใหญ่อย่าง 

ฝรั่งเศส แชมป์โลกปี 1998 และ อิตาลี อดีตแชมป์โลก 4 สมัย ถูกร่วงไปอยู่ในโถ 2 ซึ่งมีโอกาสสูงที่ทั้ง "ขุนพลอัซซูรี่" และ "ทัพตราไก่" จะได้พบกระดูกชิ้นโตอย่าง เยอรมัน, เบลเยียม, ฮอลแลนด์, โปรตุเกส, อังกฤษ และ สเปน หรือถ้าโชคดีเจองานเบาก็เป็น โรมาเนีย หรือ เวลส์ โดยการแข่งขันรอบคัดเลือก 

จะแบ่งสายออกเป็น 9 กลุ่ม กลุ่ม เอ ถึง จี มีกลุ่มละ 6 ทีม ส่วนกลุ่ม เอช และ ไอ มีกลุ่มละ 5 ทีม แชมป์ของแต่ละกลุ่มจะผ่านเข้ารอบสุดท้ายแบบอัตโนมัติ ขณะที่ทีมอันดับ 2 ที่ดีที่สุด 8 ทีม จะต้องมาเล่นเพลย์ออฟอีก 2 นัด  ข่าวบอลไทย

 เหย้า-เยือน เพื่อให้เหลือ 4 ทีมผ่านเข้ารอบสุดท้ายต่อไป รวมเป็น 13 ทีมตามโควต้าทวีปยุโรป

อีกซัมเมอร์ที่ “สูญเปล่า”

จบศึก “ทรู ซูเปอร์โทรฟี่ ลิเวอร์พูล ทัวร์ 2015” ที่กิจกรรมมี 3 วัน: 12 – 14 ก.ค.เรียบร้อยแล้ว ณ แผ่นดินไทยชนิดที่ต้อง “ชื่นชม” ทีมหงส์แดง ลิเวอร์พูล ว่า “เต็มที่” จริง ๆ กับทริปนี้


ได้ใจกันแบบนี้จึงไม่แปลกว่า ทัวร์นี้ คือ ครั้งที่ 6 พร้อมสถิติชนะ 5 เสมอ 1 และเป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 6 ปีที่จัดว่าไม่ธรรมดาอย่างยิ่ง ในแง่การ “จัดการ” ตัวอย่างเช่น วันจันทร์ที่ 13 ก.ค.ทั้ง เบรนแดน ร็อดเจอร์ส,

สตาฟฟ์ และนักเตะต้องร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ประมาณ 7-8 งานกับเหล่าผู้สนับสนุนตั้งแต่เช้าก่อนจะปิดท้ายด้วยการซ้อมสนามจริง ราชมังคลากีฬาสถาน ช่วงเย็น ๆ ฟังดูเหมือน “เหนื่อยจริง ๆ” แต่ทว่า

มีการจัดสรรบริหาร แบ่งยิบ ซอยย่อย ทัพหงส์แดงไปงานต่าง ๆ เพื่อเอาใจทั้งผู้สนับสนุน และเหล่าแฟนบอลได้ค่อนข้างดี ขณะที่ “ทีมงาน” ออร์กาไนซ์บ้านเราก็คง “วุ่นวาย” ไม่น้อยไปกว่ากันในบริหารคิวพิธีการต่าง ๆ และการประสานงาน เสียบ่นจึงมีบ้างซึ่งผม “เข้าใจ” ทว่าก็ต้องยอมรับด้วยว่า

 การจัดการยังมี “ช่องว่าง” สำหรับการพัฒนาขึ้นได้กว่านี้โดยเฉพาะทาง “กลุ่ม ทรู” ยืนยันแล้วว่า จะจัดทัวร์นาเมนท์ฟุตบอลลักษณะนี้เป็นประจำ ผลการแข่งขัน 4-0 คงไม่สามารถบอกอะไรได้ เพราะ 2 ประตูมาจากลูกคอร์เนอร์แล้วโหม่งตรงเข้าตาข่ายทันทีโดยเกมรับ ทรู ออลสตาร์ “สอบตก” ล้วน ๆ

เรื่องการป้องกัน ภาพรวม ยังเห็นชัดว่า ทีมของเรา “ชั้นไม่ถึง” มากกว่า หงส์แดง “เทพ” ในทริปที่ ราฮีม สเตอร์ลิง แข่งขันในการขโมยพื้นที่ข่าวตลอดเวลา เรียกได้ว่า ข่าวราฮีม กับค่าตัว 49 ล้านปอนด์พร้อมบทวิเคราะห์ที่มาที่ไปในการย้าย  ข่าวบอลทั่วไป

ถูกนำเสนออย่างต่อเนื่อง และถูกเชื่อมไปที่ประเด็นสำคัญมากมาย 1 ในนั้นคือ การขายผู้เล่น “บิ๊กเนม” ของสโมสรลิเวอร์พูล อย่างต่อเนื่องนับจาก ชาบี้ อลองโซ่ (2009), ฮาเบียร์ มาสเคราโน่ (2010), เฟอร์นันโด ตอร์เรส (2011) และหลุยส์ ซัวเรซ (2013) ตามด้วยครั้งนี้ ราฮีม สเตอร์ลิง (2014) ประเด็นนี้ หนังสือพิมพ์ “เดลี เมล์” ถึงกับใช้คำว่า ลิเวอร์พูล เป็น selling club หรือทีมปั้นนักเตะขายมากกว่าจะ

 “สร้างทีม” โดยใช้บิ๊กเนมเหล่านั้นเป็นแกนหลัก ฟังแล้วก็ “จี๊ด” เหมือนกันนะครับ เพราะอย่างน้อย ลิเวอร์พูล ก็ควรได้ใช้ประโยชน์จากเม็ดเงินการขายใหญ่ ๆ ข้างต้น เช่น ตอร์เรส 50 ล้านปอนด์,หลุยส์ ซัวเรซ กว่า 70 ล้านปอนด์ ได้ดีกว่านี้ ได้ดีกว่า

ทุบสถิตินักเตะอังกฤษ คว้าแอนดี้ แคร์โรลล์ 35 ล้านปอนด์ หรือกว่า 100 ล้านปอนด์ตั้งหลายคน แต่บ่มีไกด์จากเงินขายซัวเรซ ขณะนี้ก็เช่นกันที่ เม็ดเงิน 49 ล้านปอนด์ แต่ต้องจ่ายคืนให้ คิวพีอาร์ 20%

จากค่าตัว สเตอร์ลิง (จะเหลือ 39 ล้านปอนด์) ก็เตรียมไม่เหลืออะไร หากต้องไปฉีกสัญญา คริสเตียน เบนเตเก้ 32.5 ล้านปอนด์ และหากหัวหอก เบลเยียม ซึ่งส่วนตัวยัง “สงสัย”

ในสไตล์การเล่นว่าจะไม่เข้าระบบ ร็อดเจอร์ส เดินทางมาบัวแล้งน้ำอีก ลิเวอร์พูล จะเท่ากับเดิน “ถอยหลัง” อีกเพียงใด? ครับ เม็ดเงินกว่า 30 ล้านปอนด์ หงส์แดง

 สามารถซื้อ คาริม เบนเซมา, เปโดร, กอนซาโล ฮิกวาอิน, อเล็กซานเดร ลากาแซตต์, ชาร์ลี ออสติน หรือแม้แต่ แฮร์รี เคน ก็ยังได้ ชื่อข้างต้น ราคาไม่เกิน 50 ล้านปอนด์ (บวก/ลบ) ซึ่งหงส์แดง ต้องวางแผนดี ๆ ในซัมเมอร์นี้ที่เวลาเริ่มงวดเข้ามา

 แล้วน่าเสียดายยิ่งที่ต้องมา “ถก” ประเด็นนักเตะดังย้ายหนี มากกว่าสร้างทีมเพื่อแชมเปี้ยนส์ ลีก หรือลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก

“ฮาลิโลวิช” VS “โอเดการ์ด” ใครจะเกิดก่อนกัน?

ดูเหมือนว่า 2 อภิมหาอำนาจลูกหนังของสเปน อย่าง บาร์เซโลน่า และ เรอัล มาดริด จะปิดงบการซื้อขายไปแล้ว หลังจากที่ไม่มีข่าวเชื่อมโยงกับใครอีกเป็นจริงเป็นจัง


อาจจะดูไม่น่าแปลกเท่าไหร่ ถ้ายกเหตุผลที่ ตอนนี้ บาร์เซโลน่า กำลังอยู่ในภาวะโทษแบนการซื้อขาย

 แม้จะทำการซื้อขาย เซ็นนักเตะมาร่วมทัพได้ก็ตาม แต่ทว่าวยังไง "อาซูลกราน่า" ก็จะไม่สามารถใช้งานนักเตะนั้นๆ ได้จนกว่าจะพ้นโทษ คือ เดือนมกราคมปีหน้า ทางด้านเรอัล มาดริด เองตลาดปีนี้ไม่กล้าทุ่ม

เงินเหมือนครั้งก่อน กับ ดาวิด เด เกอา พวกเขาก้จะเลือกที่จะรออีกหนึ่งปี ให้สัญญาของนายทวารวัย 23 ของแมนฯยูฯ หมดลงเพื่อจะได้ตัวไปแบบฟรีๆ เท่ากับว่าเปิดตลาดมารอบนี้ ทั้ง บาร์ซ่า และ ราชันชุดขาว

ไม่มีตัวรุกไหนมาเพิ่มเลย นอกจากฝ่ายแรกที่มี อาร์ด้า ตูราน เข้ามา แต่ก็ยังใช้งานไม่ได้ตามเหตุผลที่บอกข้างต้น  ข่าวกีฬา ข่าวบอล ทั่วไป

เป็นโอกาสที่ทั้งสองทีม จะได้ใช้นักเตะดาวรุ่งที่มีอยู่ในอคาเดมี เยาวชน ให้ดันขึ้นมาช่วยทีมชุดใหญ่ได้ ในช่วงต้นซีซั่นที่กำลังมาถึง อเลน ฮาลิโลวิช และ มาร์ติน โอเดการ์ด จัดเป็นวันเดอร์คิด ที่มีโปรไฟล์น่า

สนใจเป็นอย่่างยิ่ง แล้วด้วยสถานการณ์ปัจจุบัน ทำให้เชื่อว่ามีแนวโน้มสูงที่แฟนๆ บอลจะได้เห็นฝีเท้าในสนามกับพวกซูเปอร์สตาร์เสียที ฮาลิโลวิช เป็นเด็กโครแอตด้วยกำเนิด ย้ายมาร่วมทีมยักษ์ใหญ่คาตาลัน จากดินาโม ซาเกร็บ ตั้งแต่ปี 2014 ในตอนนี้เจ้าตัวอายุเพียง 17 เท่านั้น

โดยสนนราคาอยู่ที่ 2.2 ล้านยูโร พร้อมออพชั่นอีกนิดหน่อยในอนาคต โดยทันทีที่เข้ามาอยู่ใน ลา มาเซีย ก็กลายเป็นขุนพลหลักของ บาร์เซโลน่า เบ ทันที ภายใต้การดูแลของโค้ช กาบรี การ์เซีย 30 นัด กับ 4 ประตู ถือว่าไม่เลวเลยในการประเดิมสีเสื้อเลือดหมู-น้ำเงิน

แล้วด้วยจำนวนนัดขนาดนี้ คงไม่ต้องสงสัยเลยว่า เขาจะเล่นบอล "ติกิ-ตาก้า" กับเพื่อนๆ ในอคาเดมี่ชื่อก้องโลก ไปถึงไหนกันแล้ว ล่าสุดก็ลงสนามในเกมปรีซีซั่น ที่ชนะ แอลเอ กาแล็คซี่ 2-1 โดยมีเวลาอยู่ในสนามถึง 20 นาที แม้จะยังไม่ได้ปล่อยของอะไรเท่าไหร่ แต่ก็ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี

ในการเป็นส่วนหนึ่งของทีม ข้ามฝากมาฝั่งเมืองหลวง ในรายของ มาร์ติน โอเดการ์ด ชาวนอร์วีเจี้ยน สร้างชื่อด้วยการเป็นนักเตะที่รับใช้ชาติอายุน้อยที่สุดในฟุตบอล ยูโร รอบคัดเลือกใหกับนอร์เวย์ด้วยวัย 15 ขวบกับ 300 วันเมื่อปีที่แล้ว ในเกมกับบัลแกเรีย และเมือนัดส่งท้ายซีซั่นที่ผ่านมา

 เขาก็ลงสนามในทีมชุดใหญ่กับราชันชุดขาวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในเกมกับ เกตาเฟ่ ซึ่งเขาลงมาแทน คริสติอาโน่ โรนัลโด้ ที่ทำแฮตทริค กลายเป็นนักเตะที่ลงสนามให้กับ เรอัล มาดริด น้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ คือ 16 ปี กับ 157 วัน

 แต่อย่างไรก็ตามเขายังไม่ถือว่าแจ้งเกิดกับ เรอัล มาดริด เต็มตัว เนื่องจากเกมดังกล่าวมันไม่มีความหมายอะไรแล้ว รวมถึงไม่ใช่ตัวเลือกแรกที่ส่งลงสนามด้วย เหลืออีกเพียงเดิือนกว่าๆ เท่านั้น ที่ปฏิทินฟุตบอลลีกจะเปิดอย่างเป็นทางการ

“สิงห์บลูส์” ฟอร์มหลุดครึ่งหลังโดน “นิวยอร์ก” ถลุงยับ 2-4 ศึกแชมเปี้ยนส์ คัพ

การแข่งขันฟุตบอลอุ่นเครื่องรายการ อินเตอร์เนชั่นแนล แชมเปี้ยนส์ คัพ 2015 ที่สนามเรดบูลส์ อารีน่า เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม (ตามเวลาประเทศไทย)

นิวยอร์ก เรดบูลส์ ทีมจากเมเจอร์ลีก สหรัฐฯ พบ เชลซี แชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เกมนี้ เชลซี ขึ้นนำก่อน 1-0 ในนาที 26 จากลูกที่ ออสการ์ เปิดให้ โลอิค เรมี่ ยิงเข้าไป

ครึ่งหลังเล่นไปได้ 6 นาที นิวยอร์ก ตีเสมอ 1-1 จากความผิดพลาดของ จอห์น เทอร์รี่ ที่จ่ายคืนหลังให้ อัสมีร์ เบโกวิช ไม่ดี ก่อนโดน แฟรงกิ้น คาเซตลานอส ลงโทษ

ยิงด้วยซ้ายตุงตาข่าย ต่อมานาที 69 นิวยอร์ก พลิกแซงขึ้นนำ 2-1 จากการโหม่งโล่งๆของ ไทเลอร์ อดัม แข้งดาวรุ่งวัย 16 ปี จากนั้นนาที 73 นิวยอร์ก หนีห่าง 3-1 จากการยิงเต็มข้อของ ฌอน เดวิส แม้ว่าโดนนำห่าง แต่ เชลซี ไม่ถอดใจ ฮึดไล่มาเป็น 2-3  ข่าวบอลต่างประเทศ

จากการยิงเล่นทางของ เอเดน อาซาร์ นาที 75 ทว่าอีก 3 นาทีต่อมา นิวยอร์ก ขยับหนีห่าง 4-2 จาก ฌอน เดวิส เจ้าเก่า จบเกม นิวยอร์ก ชนะ เชลซี 4-2

 โปรแกรมนัดต่อไปของ เชลซี จะพบกับ ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง แชมป์ลีกเอิง ฝรั่งเศส ในวันที่ 26 ก.ค. นี้

ปิดดีล! หงส์เปิดตัว “เบนเตเก้” เสริมคม ค่าตัว 32.5 ล้านปอนด์

ลิเวอร์พูลปิดจ็อบคว้าตัว คริสเตียน เบนเตเก้ กองหน้าของทัพ”สิงห์ผงาด”แอสตัน วิลล่า มาร่วมทีมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้วยค่าตัว 32.5 ล้านปอนด์


คริสเตียน เบนเตเก้ ตกเป็นข่าวพัวพันกับ ลิเวอร์พูลมาได้พักใหญ่แล้ว ล่าสุดสโมสรประกาศอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว


ว่าได้บรรลุข้อตกลง เซ็นสัญญาคว้าตัวหัวหอกทีมชาติเบลเยี่ยมวัย 24 ปีรายนี้มาร่วมทีมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้วยค่าตัวมูลค่า 32.5 ล้านปอนด์ ข่าวบอลไทยและต่างประเทศเทศ


"ผมมีความสุขมากที่ได้มาอยู่ที่นี่ และอยากขอบคุณเจ้าของทีม, เอียน อายร์และแน่นอนว่าผู้จัดการทีมด้วยที่พยายามอย่างยิ่งในการคว้าตัวผมมาร่วมด้วย ผมคิดว่าที่นี่เหมาะกับผมมาก"


" ผมอยากเป็นส่วนหนึ่งในแผนงานของผู็จัดการทีม ลิเวอร์พูลคือทีมใหญ่ พวกเขาคว้าแชมป์ลีกและแชมเปี้ยนส์ลีก 5 สมัย รวมถึงยูฟ่า คัพและแชมป์อีกมากมายด้วย"