วันอังคารที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2558

งานที่ “หนักที่สุด” ในวงการฟุตบอลไทย

งานที่ “หนักที่สุด” ในวงการฟุตบอลไทย



มาถึงยุคนี้คงปฏิเสธไม่ได้ว่าฟุตบอลลีกไทยกำลัง “บูม” และได้รับความนิยมจากทุกสารทิศ ไม่เฉพาะแต่ลีกสูงสุดอย่าง “โตโยต้า ไทยพรีเมีย์ลีก” แต่หมายรวมถึง “ลีกวัน” และ “ลีกภูมิภาค” ซึ่งถ้าให้มานั่งนับจำนวนสโมสรที่จดทะเบียนกับสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยเกินร้อยแน่ เบื้องหลังของความ “บูม” คงหนีไม่พ้น “แฟนบอล” นี่แหละที่เป็นสาเหตุ ถ้าไม่เชื่อขอแนะนำสุดสัปดาห์นี้ลองไปนั่งดูฟุตบอลแมตซ์ของสโมสรใหญ่ๆ ตามหัวเมืองหลักของประเทศอย่าง “เชียงใหม่” “สงขลา” “ภูเก็ต” หรือแม้กระทั่ง “ฉะเชิงเทรา” เมื่อฟุตบอล “บูม” ได้รับความนิยม สิ่งที่ตามมาโดยอัตโนมัติคือ “ความหวัง” ของแฟนบอลและคนทำทีมที่อยากเห็นทีมของตัวเองและทีมที่ตัวเองตามเชียร์ประสบความสำเร็จ ได้เล่นในลีกสูงๆอย่าง “ลีกวัน” หรือ “ไทยพรีเมียร์ลีก” ไม่นับเรื่องของ “เงินมหาศาล” ที่จ่ายไป หรืออย่างน้อยๆเห็นทีมของตัวเองชนะในบ้านก็มีความสุขแล้ว อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ตามหลอกหลอนแฟนบอลและคนทำทีมจนมีข่าวเกือบทุกสัปดาห์ที่มีการแข่งขันคือ “ความผิดพลาด” ซึ่งในเกมฟุตบอล ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นย่อมมาจากคนที่มีอำนาจสิทธิ์ขาดในการตัดสินเกมฟุตบอลอย่าง “ผู้ตัดสิน” ไม่ต้องไปดูที่ไหนไกล เอาแค่สัปดาห์นี้ก็มี “ความผิดพลาด” ให้เห็นจากผู้ตัดสิน ยิ่งถ้าคนไม่ถูกใจตัวใหญ่หน่อย เสียงที่ออกมาหลังเกมย่อม “ดัง” เป็นธรรมดา แต่หลายๆครั้งก็ต้องยอมรับการทำหน้าที่ของ “ผู้ตัดสิน” ตั้งแต่ดูฟุตบอลไทยมาว่า “น่าส่ายหัว” จริงๆ ยิ่งถ้านัดไหนมีความสำคัญมากๆ อย่างพวกเกมที่มีผลต่อการลุ้นแชมป์ เลื่อนชั้นหรือตกชั้นในทุกระดับ ทีมที่เสียประโยชน์จาก “ความผิดพลาด” ลงทุนทำทีมบอลเป็นสิบล้านร้อยล้าน แต่สุดท้ายทำอะไรไม่ได้ มันไม่ใช่แค่ “น่าเจ็บใจ” แต่ในแง่ธุรกิจมันก็เหมือนการลงทุนที่ “สูญเปล่า” และต้องทนพิษบาดแผลทำทีมต่อไปเพื่อ “แฟนบอล” จนกว่าจะไม่ไหวเจ็บหายตายจากไปเอง ไม่แปลกที่ในรอบ 4-5 ปีทีผ่านมา มีหลายทีมที่ “ล้ม” ไป และอีกหลายทีมที่เกิดขึ้นมา โดยส่วนตัวเคยมีโอกาสคุยกับ “คนทำทีมฟุตบอล” คนหนึ่ง ซึ่งเป็นทีมใหญ่ทางภาคใต้ว่า หมดเงินไปหลายสิบล้านบาทและเลิกคิดในเรื่องของกำไรขาดทุนไปนานแล้ว แต่เลิกไม่ได้เพราะคำว่า “มันส์” เพียงคำเดียว ดังนั้นตัวแปรทั้งหมดของเรื่องที่เขียนมาข้างต้นคงหนีไม่พ้นคนที่เราเรียก “อาจารย์” เวลาแข่งฟุตบอล หรือ “ผู้ตัดสิน” นี้แหละ บางที “ตัดสินถูกต้อง” แต่ “ไม่ถูกใจ” ก็ซวย!!!กันไป แถมกีฬาชนิดนี้ทีใช้ลูกกลมๆมีลมอยู่ข้างในดันแข่งได้เพียงแค่ 2 ทีม 2 ฝั่งเท่านั้น ถึงจะมีผล “เสมอ” ให้แบ่งแต้มหรือ “ไม่มีผู้แพ้” แต่ก็เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ค่อยได้ อย่างทีมใหญ่ทางตะวันออกที่เป็นตัวเต็งลุ้นแชมป์ในฤดูกาลนี้ แพ้เพียงแค่นัดเดียว แต่เสมอไป 8 นัดแล้ว ส่งผลให้ตกไปอยู่กลางตารางจนมีข่าวออกมาว่าอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งโค้ชภายในทีม อาชีพ “โค้ชฟุตบอล” ซึ่งเป็นงานที่ “หนัก” ยังเปลี่ยนได้ ถ้าคนทำทีมอยากหรือกระแสจากแฟนบอลเรียกร้องมากๆ แต่ในวงการฟุตบอลไทยมีอาชีพที่ชั่วโมงนี้ “หนักกว่า” อาจจะเรียกว่า “หนักที่สุด” คือ “ผู้ตัดสิน” นี่แหละ เพราะนอกจากแบกรับความคาดหวังของคนทำทีมกับแฟนบอลแล้ว ยังเป็นส่วนที่เหนือการควบคุมของคนทำทีมกับแฟนบอล “ปลดไม่ได้” “ไล่ออกไม่ได้” แถมทำดี “เสมอตัว” ทำพลาด คือ “ฆ่าตัวตาย” ครับ!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น