งานที่ “หนักที่สุด” ในวงการฟุตบอลไทย
มาถึงยุคนี้คงปฏิเสธไม่ได้ว่าฟุตบอลลีกไทยกำลัง “บูม” และได้รับความนิยมจากทุกสารทิศ
ไม่เฉพาะแต่ลีกสูงสุดอย่าง “โตโยต้า ไทยพรีเมีย์ลีก”
แต่หมายรวมถึง “ลีกวัน” และ “ลีกภูมิภาค” ซึ่งถ้าให้มานั่งนับจำนวนสโมสรที่จดทะเบียนกับสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยเกินร้อยแน่
เบื้องหลังของความ “บูม” คงหนีไม่พ้น “แฟนบอล” นี่แหละที่เป็นสาเหตุ
ถ้าไม่เชื่อขอแนะนำสุดสัปดาห์นี้ลองไปนั่งดูฟุตบอลแมตซ์ของสโมสรใหญ่ๆ ตามหัวเมืองหลักของประเทศอย่าง “เชียงใหม่” “สงขลา” “ภูเก็ต” หรือแม้กระทั่ง “ฉะเชิงเทรา”
เมื่อฟุตบอล “บูม” ได้รับความนิยม สิ่งที่ตามมาโดยอัตโนมัติคือ “ความหวัง” ของแฟนบอลและคนทำทีมที่อยากเห็นทีมของตัวเองและทีมที่ตัวเองตามเชียร์ประสบความสำเร็จ
ได้เล่นในลีกสูงๆอย่าง “ลีกวัน” หรือ “ไทยพรีเมียร์ลีก” ไม่นับเรื่องของ “เงินมหาศาล” ที่จ่ายไป หรืออย่างน้อยๆเห็นทีมของตัวเองชนะในบ้านก็มีความสุขแล้ว
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ตามหลอกหลอนแฟนบอลและคนทำทีมจนมีข่าวเกือบทุกสัปดาห์ที่มีการแข่งขันคือ “ความผิดพลาด”
ซึ่งในเกมฟุตบอล ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นย่อมมาจากคนที่มีอำนาจสิทธิ์ขาดในการตัดสินเกมฟุตบอลอย่าง “ผู้ตัดสิน”
ไม่ต้องไปดูที่ไหนไกล เอาแค่สัปดาห์นี้ก็มี “ความผิดพลาด” ให้เห็นจากผู้ตัดสิน ยิ่งถ้าคนไม่ถูกใจตัวใหญ่หน่อย เสียงที่ออกมาหลังเกมย่อม “ดัง” เป็นธรรมดา
แต่หลายๆครั้งก็ต้องยอมรับการทำหน้าที่ของ “ผู้ตัดสิน” ตั้งแต่ดูฟุตบอลไทยมาว่า “น่าส่ายหัว” จริงๆ
ยิ่งถ้านัดไหนมีความสำคัญมากๆ อย่างพวกเกมที่มีผลต่อการลุ้นแชมป์ เลื่อนชั้นหรือตกชั้นในทุกระดับ ทีมที่เสียประโยชน์จาก “ความผิดพลาด” ลงทุนทำทีมบอลเป็นสิบล้านร้อยล้าน แต่สุดท้ายทำอะไรไม่ได้
มันไม่ใช่แค่ “น่าเจ็บใจ” แต่ในแง่ธุรกิจมันก็เหมือนการลงทุนที่ “สูญเปล่า” และต้องทนพิษบาดแผลทำทีมต่อไปเพื่อ “แฟนบอล” จนกว่าจะไม่ไหวเจ็บหายตายจากไปเอง
ไม่แปลกที่ในรอบ 4-5 ปีทีผ่านมา มีหลายทีมที่ “ล้ม” ไป และอีกหลายทีมที่เกิดขึ้นมา
โดยส่วนตัวเคยมีโอกาสคุยกับ “คนทำทีมฟุตบอล” คนหนึ่ง ซึ่งเป็นทีมใหญ่ทางภาคใต้ว่า หมดเงินไปหลายสิบล้านบาทและเลิกคิดในเรื่องของกำไรขาดทุนไปนานแล้ว แต่เลิกไม่ได้เพราะคำว่า “มันส์” เพียงคำเดียว
ดังนั้นตัวแปรทั้งหมดของเรื่องที่เขียนมาข้างต้นคงหนีไม่พ้นคนที่เราเรียก “อาจารย์” เวลาแข่งฟุตบอล หรือ “ผู้ตัดสิน” นี้แหละ
บางที “ตัดสินถูกต้อง” แต่ “ไม่ถูกใจ” ก็ซวย!!!กันไป
แถมกีฬาชนิดนี้ทีใช้ลูกกลมๆมีลมอยู่ข้างในดันแข่งได้เพียงแค่ 2 ทีม 2 ฝั่งเท่านั้น
ถึงจะมีผล “เสมอ” ให้แบ่งแต้มหรือ “ไม่มีผู้แพ้” แต่ก็เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ค่อยได้ อย่างทีมใหญ่ทางตะวันออกที่เป็นตัวเต็งลุ้นแชมป์ในฤดูกาลนี้ แพ้เพียงแค่นัดเดียว แต่เสมอไป 8 นัดแล้ว
ส่งผลให้ตกไปอยู่กลางตารางจนมีข่าวออกมาว่าอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งโค้ชภายในทีม
อาชีพ “โค้ชฟุตบอล” ซึ่งเป็นงานที่ “หนัก” ยังเปลี่ยนได้ ถ้าคนทำทีมอยากหรือกระแสจากแฟนบอลเรียกร้องมากๆ
แต่ในวงการฟุตบอลไทยมีอาชีพที่ชั่วโมงนี้ “หนักกว่า” อาจจะเรียกว่า “หนักที่สุด” คือ “ผู้ตัดสิน” นี่แหละ
เพราะนอกจากแบกรับความคาดหวังของคนทำทีมกับแฟนบอลแล้ว ยังเป็นส่วนที่เหนือการควบคุมของคนทำทีมกับแฟนบอล “ปลดไม่ได้” “ไล่ออกไม่ได้”
แถมทำดี “เสมอตัว” ทำพลาด คือ “ฆ่าตัวตาย” ครับ!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น